Thursday, 27 May 2010

integrate

1.   ด้านการปฏิบัติการ

ทำหน้าที่ทั้งเป็นวิเทศสัมพันธ์ นักประชาสัมพันธ์ และ นักตรวจสอบภายใน และนักบัญชี การเงิน ในบางครั้ง และเป็นนิติกรด้วย

 

                            1. ด้านการปฏิบัติการ


(1) จัดกิจกรรมตามโครงการประชาสัมพันธ์ทั้งในและต่างประเทศ โดยประสานงานกับ

หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การดำเนินงานประชาสัมพันธ์บรรลุผลสำเร็จตามเป้าหมาย


2) สำรวจความคิดเห็นของประชาชน และรวบรวมข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ และสรุปผล

เพื่อเป็นข้อมูลในการดำเนินการประชาสัมพันธ์


(3) ศึกษา ค้นคว้า วิเคราะห์ข้อมูล เพื่อประกอบการวิจัย วางแผนการประชาสัมพันธ์และ

ติดตามผล


(4) จัดทำเอกสาร และผลิตบทความ เพื่อการประชาสัมพันธ์และเผยแพร่




 

(1)               รวบรวมและตรวจสอบความถูกต้องและความน่าเชื่อถือของข้อมูล ตัวเลข หลักฐานการทำสัญญา และเอกสารต่างๆทางด้านการเงิน การบัญชี เพื่อให้การตรวจสอบดำเนินไปอย่างถูกต้องและได้ผลตรงกับหลักฐานที่เกิดขึ้นจริง

                            (2)               ตรวจสอบการปฏิบัติงานเกี่ยวกับการบริหารงบประมาณ การเงิน พัสดุและทรัพย์สิน รวมทั้งการบริหารด้านอื่นๆของส่วนราชการ เพื่อดูแลให้การใช้งบประมาณและทรัพยากรเป็นไปอย่างประหยัด มีประสิทธิภาพสูง และตรงตามวัตถุประสงค์ที่กำหนด

                            (3)               จัดทำรายงานการตรวจสอบรายเดือน เพื่อเสนอข้อตรวจพบและข้อเสนอแนะให้ผู้บังคับบัญชาหรือหน่วยงานต้นสังกัดรับทราบผลการดำเนินงาน

 

2.               ด้านการวางแผน

                            2. ด้านการวางแผน


วางแผนการทำงานที่รับผิดชอบ ร่วมดำเนินการวางแผนการทำงานของหน่วยงานหรือ

โครงการ เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปตามเป้าหมายและผลสัมฤทธิ์ที่กำหนด

วางแผนการทำงานที่รับผิดชอบร่วมดำเนินการวางแผนการทำงานของหน่วยงานหรือโครงการเพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปตามเป้าหมายผลสัมฤทธิ์ที่กำหนด

 

 

3.               ด้านการประสานงาน 3. ด้านการประสานงาน


(1) ประสานการทำงานร่วมกันทั้งภายในและภายนอกทีมงานหรือหน่วยงาน เพื่อให้เกิด

ความร่วมมือและผลสัมฤทธิ์ตามที่กำหนด


(2) ชี้แจงและให้รายละเอียดเกี่ยวกับข้อมูล ข้อเท็จจริง แก่บุคคลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

เพื่อสร้างความเข้าใจหรือความร่วมมือในการดำเนินงานตามที่ได้รับมอบหมาย





 

                            (1)   ประสานการทำงานร่วมกันทั้งภายในและภายนอกทีมงานหรือหน่วยงาน เพื่อให้เกิดความร่วมมือและผลสัมฤทธิ์ตามที่กำหนดไว้

                            (2)   ชี้แจงและให้รายละเอียดเกี่ยวกับข้อมูล ข้อเท็จจริง แก่บุคคลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างความเข้าใจหรือความร่วมมือในการดำเนินงานตามที่ได้รับมอบหมาย

 

4.               ด้านการบริการ4. ด้านการบริการ


ให้บริการข้อมูลการประชาสัมพันธ์แก่ประชาชนและหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความรู้

ความเข้าใจที่ถูกต้อง ตรงตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น

 

                            ฝึกอบรม ให้คำปรึกษา เสนอแนะวิธีการปรับปรุงการปฏิบัติงานแก่หน่วยรับตรวจและเจ้าหน้าที่ระดับรองลงมา และตอบข้อซักถามและชี้แจงเรื่องต่างๆ เกี่ยวกับงานในหน้าที่ พร้อมทั้ง
ช่วยแก้ปัญหาข้อขัดแย้งในหน่วยงานที่รับผิดชอบ เพื่อให้การปฏิบัติงานถูกต้องและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ให้คำแนะนำ ตอบปัญหา และชี้แจง เกี่ยวกับงานตรวจสอบภายในที่ตนมีความรับผิดชอบ ในระดับเบื้องต้นแก่หน่วยงาน ราชการ เอกชน หรือประชาชนทั่วไป เพื่อให้ผู้ที่สนใจได้ทราบข้อมูลและความรู้ต่าง
ที่เป็นประโยชน์

 

 

 

 

 

ทำงานแบบนักบัญชีด้วยบางครั้ง

 

1.               ด้านการปฏิบัติการ

                            (1)               จัดทำบัญชี เอกสารรายงานความเคลื่อนไหวทางการเงิน ทั้งเงินในและเงินนอกงบประมาณ เงินทุนหมุนเวียน เพื่อแสดงสถานะทางการเงินและใช้เป็นฐานข้อมูลที่ถูกต้องตามระเบียบวิธีการบัญชี  ของส่วนราชการ

                            (2)               รวบรวมข้อมูล และรายงานการเงินของส่วนราชการ เพื่อพร้อมที่จะปรับปรุงข้อมูลให้ถูกต้องและทันสมัย

                            (3)               จัดทำและจัดสรรงบประมาณแก่หน่วยงานของรัฐเพื่อให้การจัดสรรงบประมาณตรงกับความจำเป็นและวัตถุประสงค์ของแต่ละหน่วยงาน

                            (4)               ศึกษาวิเคราะห์ผลการใช้จ่ายเงินงบประมาณของหน่วยงานภาครัฐเพื่อให้การใช้จ่ายเงินเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและใช้เป็นแนวทางในการปรับปรุงการจัดทำและจัดสรรงบประมาณ

                            (5)               ดูแลการรับและจ่ายเงิน สถานะทางการเงิน ตรวจสอบเอกสารสำคัญการรับ-จ่ายเงิน เพื่อให้การรับ-จ่ายเงินขององค์กรมีประสิทธิภาพ การปฏิบัติการถูกต้องตามระเบียบปฏิบัติของราชการ

 

 

                            (6)               ถ่ายทอดความรู้ด้านการเงินและบัญชี แก่เจ้าหน้าที่ระดับรงลงมา เช่น ให้คำแนะนำในการปฏิบัติงาน วางโครงการกำหนดหลักสูตรและฝึกอบรม จัดทำคู่มือประจำสำหรับการฝึกอบรมและวิธีใช้อุปกรณ์เครื่องมือที่ถูกต้อง เป็นต้น เพื่อถ่ายทอดความรู้ที่เป็นประโยชน์ในการปฏิบัติงานตามมาตรฐานและข้อกำหนด

 

2.               ด้านการวางแผน

                            วางแผนการทำงานที่รับผิดชอบร่วมดำเนินการวางแผนการทำงานของหน่วยงานหรือโครงการเพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปตามเป้าหมายผลสัมฤทธิ์ที่กำหนด

 

3.               ด้านการประสานงาน

                            (1)                 ประสานการทำงานร่วมกันทั้งภายในและภายนอกทีมงานหรือหน่วยงาน เพื่อให้เกิดความร่วมมือและผลสัมฤทธิ์ตามที่กำหนดไว้

                            (2)                 ชี้แจงและให้รายละเอียดเกี่ยวกับข้อมูล ข้อเท็จจริง แก่บุคคลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างความเข้าใจหรือความร่วมมือในการดำเนินงานตามที่ได้รับมอบหมาย

 

4.               ด้านการบริการ

                            (1)               ให้คำแนะนำ ตอบปัญหาและชี้แจงเกี่ยวกับงานการเงินและบัญชีที่ตนมีความรับผิดชอบ     ในระดับเบื้องต้นแก่หน่วยงานราชการ เอกชน หรือประชาชนทั่วไป เพื่อให้ผู้ที่สนใจได้ทราบข้อมูลและความรู้ต่าง ที่เป็นประโยชน์

                            (2)               จัดเก็บข้อมูลเบื้องต้น ทำสถิติ ปรับปรุง หรือจัดทำฐานข้อมูลหรือระบบสารสนเทศที่เกี่ยวกับงานการเงินและบัญชีเพื่อให้สอดคล้องและสนับสนุนภารกิจของหน่วยงาน และใช้ประกอบการพิจารณากำหนดนโยบาย แผนงาน หลักเกณฑ์ มาตรการต่าง

 

 

 

นิติกร

 

1.              ด้านปฏิบัติการ

                            (1)                เสนอความเห็นแก่ผู้บังคับบัญชาในการตอบข้อหารือ หรือวินิจฉัยปัญหากฎหมายเกี่ยวกับระเบียบของทางราชการที่มีผลกระทบต่อการดำเนินงานของหน่วยงาน เพื่อเป็นข้อมูลสนับสนุนการพิจารณาของผู้บังคับบัญชา

                            (2)                ศึกษา วิเคราะห์ และวิจัยเพื่อปรับปรุงกฎหมาย และระเบียบเกี่ยวกับหน่วยงาน
ที่รับผิดชอบ เพื่อให้ทันกับสถานการณ์ และอำนวยความสะดวกในการทำงาน โดยพิจารณาถึงความเหมาะสมและเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย

                            (3)                ศึกษาข้อมูล รวบรวมแสวงหาข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย เสนอความเห็นในการดำเนินการเรื่องใด ๆ ที่เกี่ยวกับวินัยข้าราชการ การร้องทุกข์ การพิทักษ์ระบบคุณธรรม รวมถึงการดำเนินการใด ๆ ตามกฎหมายปกครองที่เกี่ยวข้องกับการบริหารราชการ และการดำเนินคดีของหน่วยงาน

                            (4)                ปฏิบัติงานฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการด้านกฎหมายเพื่อจัดประชุมเสนอความเห็น จัดทำระเบียบ วาระ และรายงานการประชุม

 

 

 

              2.              ด้านการวางแผน

                            วางแผนการทำงานที่รับผิดชอบ ร่วมดำเนินการวางแผนการทำงานของหน่วยงานหรือโครงการ เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปตามเป้าหมายผลสัมฤทธิ์ที่กำหนด

 

              3.              ด้านการประสานงาน

                            (1)                ประสานงานทำงานร่วมกันทั้งภายในและภายนอกทีมงานหรือหน่วยงาน เพื่อให้เกิดความร่วมมือและผลสัมฤทธิ์ตามที่กำหนดไว้

                            (2)              ชี้แจงและให้รายละเอียดเกี่ยวกับข้อมูล ข้อเท็จจริง แก่บุคคลหรือหน่วยงาน
ที่เกี่ยวข้อง  เพื่อสร้างความเข้าใจหรือความร่วมมือในการดำเนินงานตามที่ได้รับมอบหมาย

 

              4.              ด้านบริการ

                            ให้คำปรึกษาแนะนำด้านกฎหมายแก่บุคคลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างความเข้าใจ
ในข้อกฎหมายที่เป็นปัญหา  และให้ความรู้ถึงข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องเป็นประโยชน์กับการดำเนินงานของบุคคลหรือหน่วยงานดังกล่าว

 


un

รางวัล UN Public Service Awards เป็น รางวัลที่จัดตั้งขึ้นโดยคณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติ (Economic and Social Council-ECOSOC) เพื่อมอบให้แก่หน่วยงานที่ดำเนินการด้านการให้บริการสาธารณะด้วยความเป็นมือ อาชีพ โดยรางวัล UN Public Service Awards 2009 มี 4 สาขา คือ

           1. สาขาการปรับปรุงความสามารถในการตอบสนอง ความรับผิดชอบ และความโปร่งใสในการบริการสาธารณะ (Improving transparency, accountability, and responsiveness in the Public Services)

           2. สาขาการปรับปรุงการให้บริการ (Improving the delivery of services)

           3. สาขาการเสริมสร้างการมีส่วนร่วมในกระบวนการตัดสินใจโดยการใช้กลไกใหม่ๆ (Fostering participation in policy-making decisions through innovative mechanism)

           4. สาขาการเสริมสร้างการบริหารจัดการองค์ความรู้ภาครัฐ (Advancing knowledge management in government)

ไทย-เขมร ลงนามตั้งหมู่บ้านนำร่องพัฒนา .หมายเลข 67

นายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 10 ..ที่ผ่านมา ที่ศูนย์พัฒนาการเกษตรภูสิงห์ .ภูสิงห์ ศรีสะเกษ ร่วมกับจังหวัดอุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา มีพิธีร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจการดำเนินการจัดตั้งหมู่บ้านนำร่องพัฒนา คุณภาพชีวิตอยู่ดีมีสุข บนถนนหมายเลข 67 (สะงำ-อัลลองเวง-เสียมราฐ) ซึ่งเป็นไปตามกรอบยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิระวะดี-เจ้าพระยา-แม่ โขง (แอคเมคส์)

โดยรัฐบาลไทยให้ความช่วยเหลือแก่ราชอาณาจักรกัมพูชาในการพัฒนาถนนหมายเลข 67 รวมทั้งการจัดทำโครงการจัดตั้งหมู่บ้านนำร่องพัฒนาคุณภาพชีวิต อยู่ดีมีสุข ขึ้นที่เมืองอัลลองเวง จังหวัดอุดรมีชัย เพื่อเป็นการพัฒนาหมู่บ้านนำร่องให้เป็นหมู่บ้านต้นแบบในการพัฒนาคุณภาพ ชีวิต นำไปสู่การอยู่ดีมีสุข และให้มีการขยายผลไปยังหมู่บ้านข้างเคียงเพื่อยกระดับพัฒนาคุณภาพชีวิตและ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ของประชาชนกัมพูชา อันจะก่อให้เกิดความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นและเสริมสร้างความเข้าใจอันดี ระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศ

"การลงนามบันทึกความเข้าใจในครั้งนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นในการพัฒนาความร่วมมือและพัฒนาความสัมพันธ์ที่ดี ตามนโยบายของรัฐบาลทั้งสองประเทศ และแนวทางความร่วมมือพัฒนาด้านต่างๆ ทั้งศิลปะวัฒนธรรม การพัฒนาด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน การท่องเที่ยวและด้านการศึกษา" นายระพี ระบุ

 

 

ด้านนายอิง วอน รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรมีชัย กล่าวว่า เป้าหมายสุดท้ายของความร่วมมือดังกล่าว คือเกิดการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม การพัฒนาการเกษตรและการส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างประชาชนของสอง ประเทศ

สำหรับโครงการดังกล่าว กรมเอเชียตะวันออก กระทรวงการต่างประเทศ และกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ช่วยเหลือสนับสนุน เพื่อสร้างมิตรไมตรีและความไว้วางใจระหว่างประชาชนสองประเทศ โดยจังหวัดศรีสะเกษ เป็นหน่วยงานดำเนินการในระดับพื้นที่ตั้งแต่ปี 2549 นอกจากนี้มีอีก 4 โครงการ 21 กิจกรรม งบประมาณ 1 ล้านบาท มุ่งพัฒนาเด็ก โครงการพัฒนาพื้นที่ศูนย์เรียนรู้เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน

http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/politics/policy/20090811/68121/40%E0%B8%AA%E0%B8%A7.%E0%B8%88%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B8%96%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3-%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%96%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%88%E0%B8%A7%E0%B8%81%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B9%87%E0%B8%94%E0%B8%9E%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%8B%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%99.html

 

กรุงเทพธุรกิจ

 

 

 ... เผยชื่อ 6 หน่วยงาน 3 โมเดลต้นแบบ พลิกโฉมภาครัฐ บันไดการปรับวัฒนธรรม
       
       "กรมการกงสุล" เบนเข็มทิศพนักงาน จากความคิดเจ้านาย เป็นการทูตเพื่อประชาชน
       
       "ขนส่งทางบก" "..บ้านตาก" แม่แบบดึงศักยภาพคน ทำงานเป็นทีม และคิดสร้างสรรค์
       
       ชู I AM READY บริหารจัดการแนวใหม่ เทียบชั้นเอกชน พร้อมเปิดแนวร่วมอีก 200 แห่ง
       
       ตุลาคม 2545 อันเนื่องมาจากการตรากฎการปฏิรูประบบราชการครั้งใหญ่ของประเทศ มีการปรับรื้อโครงสร้างกระทรวง ทบวง กรมต่างๆ ซึ่งกระทบโดยตรงต่อการทำงานของข้าราชการที่จะต้องทำงานโดยคำนึงถึงผล ประโยชน์ของรัฐและความพึงพอใจของประชาชน
       
        เป้าหมายสำคัญเพื่อต้องการให้เกิดการบริหารจัดการภาครัฐที่ดีโดยใช้แนวทาง ใหม่ แต่ก็ยังอยู่ภายใต้การใช้อำนาจทางการปกครองที่ยึดหลักความเป็นธรรมเน้นความ โปร่งใสและการมีคุณธรรม
       
        สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบข้าราชการ(...) จึงให้ความสำคัญกับการปรับเปลี่ยนทัศนคติและค่านิยมของหน่วยงานและคนในระบบ ราชการ ซึ่งไม่ใช่เรื่องกล้วยๆ และในความพยายามที่จะทำเรื่องนี้ให้ลุล่วงอย่างยั่งยืนนั้นทำให้เกิด คุณลักษณะที่พึงประสงค์ของข้าราชการ 8 ประการ ภายใต้คอนเซ็ปต์ I AM READY ซึ่งจะต้องสอดคล้องกับการบริหารจัดการภาครัฐแนวใหม่
       
        รองศาสตราจารย์ นครินทร์ เมฆไตรรัตน์ คณบดีคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในฐานะหัวหน้าโครงการวิจัยเพื่อหาหน่วยงานต้นแบบในภาครัฐ กล่าวว่า ช่วงเวลาที่ผ่านมาราชการได้ปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานและค่านิยมภายในองค์กรไป บ้างแล้ว บางแห่งมีการปรับก่อนที่จะมีการตรากฎหมายควบคุมเสียอีก
       หน่วยงานหนึ่งที่หากไม่พูดถึงการเปลี่ยนแปลงเสียมิได้ก็คือ

      กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ เพราะไม่เพียงแต่การเปลี่ยนแปลงเรื่อง

      E-Passports เท่านั้น หากแต่มีการยกระดับความคิดเรื่องคุณค่าทางวัฒนธรรม

      ตลอดจนเปลี่ยนมุมมองของข้าราชการกรมการกงสุลไปเลย

            

              การเปลี่ยนทัศนคติของคนที่ทำงานในกระทรวงการต่างประเทศที่จากเดิมใครๆ

      ก็รู้ว่าคนที่จบการศึกษาสาขาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศนั้น

      เป้าหมายหรือทัศนคติลำดับต้นๆ ก็คือต้องการเป็นนักการทูต ทำงานในต่างประเทศ

      แต่กระทรวงการต่างประเทศมีการปรับทัศนคติของคนที่เข้าไปทำงานในกระทรวงเสียใหม่

      โดยเฉพาะในกรมการกงสุล

            

              โดยใช้หลักการที่ว่า ถ้าจะเป็นทูตก็ได้

      แต่ต้องทำงานรับใช้ประชาชนก่อน ต้องมารับหน้างานในเชิงฟังก์ชั่นก่อน

      จึง มีการหล่อหลอมแบบใหม่เพื่อเปลี่ยนคนที่จะเข้ามาอยู่ในกระทรวงต่างประเทศให้ มีวิธีคิดแบบใหม่ให้มาทำงานเน้นเรื่องรักที่จะทำงานรับใช้ประชาชน

      รักที่จะทำงานในลักษณะที่เรียกว่าการทูตเพื่อประชาชนด้วย

 

 

รองศาสตราจารย์ นครินทร์ เมฆไตรรัตน์ คณบดีคณะรัฐศาสตร์

      มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

      ในฐานะหัวหน้าโครงการวิจัยเพื่อหาหน่วยงานต้นแบบในภาครัฐ กล่าวว่า

      ช่วงเวลาที่ผ่านมาราชการได้ปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานและค่านิยมภายในองค์กรไปบ้างแล้ว

      บางแห่งมีการปรับก่อนที่จะมีการตรากฎหมายควบคุมเสียอีก

            

             

      ดังนั้นการใช้เกณฑ์วัดการจัดการภาครัฐแนวใหม่จึงเทียบเคียงกับภาคเอกชนเพราะถือว่าไม่ได้แตกต่างกันมากนัก

      โดยมีกรอบแนวคิดที่เป็นพื้นฐานเดียวกัน คือ

     เป็นหน่วยงานที่ให้บริการโดยเน้นความสะดวกสบายของผู้รับบริการเป็นสำคัญและมีการจัดการที่มีประสิทธิภาพ

            

              "เกณฑ์การประเมินความสำเร็จของภาคเอกชน เช่น บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย

      จำกัด (มหาชน) การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ บริษัท

      บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน)

      ในเรื่องการจัดการทรัพยากรอย่างคุ้มค่าเพื่อให้เกิดมูลค่าเพิ่มสูงสุด

      มีการให้บริการรูปแบบใหม่ๆ และมีวิธีการทำงานอย่างรวดเร็ว"

            

              เมื่อพิจารณาในเกณฑ์ต่างๆ แล้ว มี 6 หน่วยงานประกอบด้วย

      1.กรมการกงสุล 2.กรมการพัฒนาชุมชน 3.กรมราชทัณฑ์ 4. การขนส่งทางบก 5.

      โรงพยาบาลบ้านตาก และ6. สำนักงานที่ดินจังหวัดสงขลา

      ซึ่งได้เปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนและเกิดขึ้นจากภายใน

 

 

 

        ดังนั้นการใช้เกณฑ์วัดการจัดการภาครัฐแนวใหม่จึงเทียบเคียงกับภาคเอกชนเพราะ ถือว่าไม่ได้แตกต่างกันมากนัก โดยมีกรอบแนวคิดที่เป็นพื้นฐานเดียวกัน คือเป็นหน่วยงานที่ให้บริการโดยเน้นความสะดวกสบายของผู้รับบริการเป็นสำคัญและ มีการจัดการที่มีประสิทธิภาพ
       
        "เกณฑ์การประเมินความสำเร็จของภาคเอกชน เช่น บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ในเรื่องการจัดการทรัพยากรอย่างคุ้มค่าเพื่อให้เกิดมูลค่าเพิ่มสูงสุด มีการให้บริการรูปแบบใหม่ๆ และมีวิธีการทำงานอย่างรวดเร็ว"
       
        เมื่อพิจารณาในเกณฑ์ต่างๆ แล้ว มี 6 หน่วยงานประกอบด้วย 1.กรมการกงสุล 2.กรมการพัฒนาชุมชน 3.กรมราชทัณฑ์ 4. การขนส่งทางบก 5. โรงพยาบาลบ้านตาก และ6. สำนักงานที่ดินจังหวัดสงขลา ซึ่งได้เปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนและเกิดขึ้นจากภายใน


Fish