สวัสดีค่ะ วันที่ 24 พฤษภาคม 2553 กลับมาพบกันหลังจากที่ที่เรากำลังจะไปสู่อนาคตที่ดีกว่า ลืมอดีตไปทั้งหมดก็ไม่ได้ เพราะมันเป็นสื่งสะท้อนให้เรารำลึกว่าอย่าทำเช่นนั้นอีก มันมีแต่เสียไม่มีได้ และกว่าเราจะมีจะได้ขึ้นมาอีกหลังจากที่บริษัทประกันความเสี่ยงชดเชยค่าเสียหายในวัตถุไปแล้ว บาดแผลร่องรอยในจิตใจเรานั้น บริษัทประกันที่ไหนจะชดเชยได้ นอกจากเรียกร้องเป็นค่าขาดไร้ สารพัดสารเพ ที่ผู้เสียหายญาติผู้สูญเสียจากร่างกายและชีวิตจะร่ำร้องเอาอีกเพื่อเยียวยาบาดแผลของจิตใจ หรือขาดการอุปการะ ขาดรายได้ ซึ่งเรื่องบางอย่าง หรือสิ่งใดบุคคลใดหรืออดีตอันระลึกถึงสถานที่ บุคคลใดก็ไม่อาจทดแทนความเจ็บปวดของการสูญเสียได้
พอดีว่าช่วงที่มีวิกฤตในบ้านเมืองช่วงนั้น ได้เข้าไปใกล้จุดที่เขาชุมนุมด้วย ไปฟังเรื่องของ กอบอขอเกี่ยวกับการลงทุนในหุ้น โดย พอสรุปได้ย่อๆดังนี้ การที่เราจะลงทุนได้ เราต้องรู้จักตลาด ตลาดนั้น มีตลาดเงินและตลาดทุน อันเป็นแหล่งระดมทุนระยะสั้นและระยะยาว ระยะสั้นไม่เกิน1ปี ระยะยาวคือเกิน1ปี การระดมเงินทุน เพื่อให้บรรดาหน่วยงานซึ่งต้องการเงินทุนระยะยาวนำไปใช้ในการขยายธุรกิจ ของภาคเอกชนบ้าง หรือ การลงทุนด้านสาธารณูปโภค ของภาครัฐ เป็นต้น
ตลาดแรกและตลาดรอง เป็นตลาดที่ซื้อขายหลักทรัพย์ โดยพวกบริษัทั้ออกหลักทรัพย์ ออกมาขายให้ผู้มีเงินออม หากไม่ซื้อมือหนึ่งก็มีหลักทรัพย์มือสองให้เลือกอีก ในตลาดรอง ซึ่งคือการถ่ายโอนจากผู้ที่ถือหุ้นไว้ขายต่อให้ผู้มีเงินที่อยากซื้อหลักทรัพย์ ผ่านตลาดนั่นเอง เปลี่ยนมือกันไปมา โดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยนั้น มีสถานะป็นนิติบุคคล จัดตั้งขึ้นตาม พ.ร.บ. หลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พ.ศ. 2517 เปิดดำเนินงานเมื่อวันที่ 30เมษายน 2518 ตอนนี้อยู่ภายใต้การกำกับตามกฏหมาย พ.ร.บ. หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ในตลาดย่อมมีทั้งสินค้า ผู้ซื้อและ นายหน้าผู้ซื้อขาย การที่จะลงทุนต้อง ทราบราคาเฉลี่ยราคาหุ้นที่ขายในราคาเทียบกับเมื่อหุ้นเข้าตลาดมาใหม่ๆ และเปรียบกับตลาดของวันนี้กับเมื่อวาน เทียบกับเมื่อวันที่ซื้อขายวันแรก 30เมษายน 2518 คือ100จุด การเคลื่อนไหวในตลาดหลักทรัพย์ ดัชนีแปรไปตามสารพัดเหตุการณ์ของบ้านเมืองค่ะ เช่น ดัชนีต่ำสุดเมื่อ 2519 คือ 76.43จุด และสูงสุดเมื่อปี 2537 ที่ 1,753.73 จุด โดยปัจจุบันปี2553 ช่วงวิกฤตสัปดาห์ที่แล้วอยู่ที่ประมาณ700จุด ไปทะลุ 8-900จุด การลงทุนในหุ้น จึงต้องต้องวิเคราะห์เศรษฐกิจ ดูจังหวะ ไม่ใช่วิกฤตหนักขอเสี่ยงวันสองวันก็ต้องลุ้นน่าดู อุตสาหกรรม ก็ต้องดู ว่าเขาค้าขายอะไรนะ ก่อนตัดสินใจซื้อขาย และ ผลการลงทุนของบริษัท ต้องดูด้วย ต้องพร้อมหากต้องการลงทุน รู้ว่าทำไมอยากลง เสี่ยงคุ้มกับค่าตอบแทนไหม เงินแค่ไหนที่จะลงเป็นแสนหรือเป็นล้าน ภาระอื่นล่ะ หรือกะจะทำอาชีพลงทุนอย่างเดียว ไม่มีภาระอะไรอีกแล้วชีวิตนี้ ช่องทางการลงทุนมีให้เลือกทั้ง ผ่านเจ้าหน้าที่การตลาด หรือผ่านระบบอินเตอร์เนท มีค่าคอมมิชชั่นเป็นค่าใช้จ่ายให้ตัวกลางเขาบ้าง0.11- 0.18ถึง 1 เปอร์เซ็นต์ ค่าคอมมิชชั่นมีแวทด้วยและเป็นแบบขั้นบันไดด้วย มีเงินลงทุนหนักต่ากว่า20ล้านบาทก็ได้จ่ายค่าเปลี่ยนผ่านน้อยกว่าลงทุนนิดหน่อย ยิ่งลงทุนมากค่าคอมมิชชั่นก็ตกลงกันได้อยู่ว่ามูลค่าการซื้อขายต่อวันเกิน20ล้านบาท ตกลงกันไม่เกินร้อยละ1 ได้ การลงทุนนั้น ผ่านทางเจ้าหน้าที่การตลาดโดยผ่านทางโทรศัพท์หรือห้องค้าก็ได้ ที่มีบัญชีทั้งแบบเงินสดก็ได้หรือแบบแคชบาลานสก็ได้ คืออยากจ่ายโดยตัดบัญชีไปหรือ ฝากไว้กับโบรกเกอร์ก่อน นอกจากนี้ไม่มีเงินสดยังกู้จากโบรกเกอร์ก็ยังได้ เป็นบัญชีมารจิ้น แต่ต้องมีหลักประกัน จ่ายดอกเบี้ยเงินกู้ด้วย แต่ต่องระวังสภาพคล่อง ราคาผันผวน และหลักทรัพย์ก็เสี่ยงด้วย
ส่วนการลงทุนทางอินเตอร์เนทนั้น มีภาพรวมตลาดที่ต้องดู มีเมนูให้เราสั่งซื้อขาย ซื้อขายหลักทรัพย์ กันตามเวลา9.30-17.00น ยกเว้นวันหยุดของธนาคารพาณิชย์ โดยใช้วิธีจับคู่คำสั่งซื้อขายผ่านระบบคอมพิวเตอร์ เรียงลำดับตาม Price Then Time Priority ดูราคาปฺดปิดของแต่ละวัน ดู Ceiling and Floor กระดานซื้อขาย มีหุ้นตามหน่วยนั้นๆที่มีในตลาด ส่วนกระดานใหญ่เป็นหุ้นซื้อขาย1ล้านหลักทรัพย์ชึ้นไป หรือ ซื้อขาย 3ล้านบาทขึ้นไป กระดานต่างประเทศ สำหรับผู้ลงทุนต่างประเทศด้วยกัน กระดานย่อยสำหรับการซื้อขายที่ต่ำกว่าหน่วยการซื้อขายทั่วไป ส่วนกระดานพิเศษ สำหรับพันธบัตร หุ้นกู้ หุ้นเปลงสภาพ ใบสำคัญแสดงสิทธิ์ซื้อหุ้นกู้
ส่วนสถานะของหลักทรัพย์ก็มีสถานะต่างไป ใช้มาเป็นคำถามดีกว่านะคะ
ให้โยงว่า เครื่องหมายอะไร หมายความว่าอย่างไรค่ะ
- XD Excluding Dividend
- XI Excluding Interest
- XR Excluding Right
- XW Excluding Warrants
- XA Excluding All
- NP Notice Pending
- NR Notice Received
- SP Suspension+
- H Halt
- ผู้ซื้อหลักทรัพย์ไม่ได้สิทธิทุกประเภทที่บริษัทประกาศให้ในคราวนั้น
- ผู้ซื้อหลักทรัพย์ไม่ได้สิทธิรับใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหลักทรัพย์
- ผู้ซื้อหลักทรัพย์ไม่ได้สิทธิจองซื้อหุ้นใหม่
- ผู้ซื้อหลักทรัพย์ไม่ได้สิทธิรับดอกเบี้ย
- ผู้ซื้อหลักทรัพย์ไม่ได้สิทธิรับเงินปันผล
- ห้ามซื้อขายหลักทรัพย์จดทะเบียนเป็นการชั่วคราว แต่ละครั้งมีระยะเวลาไม่เกินกว่าหนึ่งรอบการซื้อขาย
- ห้ามซื้อขายหลักทรัพย์จดทะเบียนเป็นการชั่วคราว โดยแต่ละครั้งมีระยะเวลาเกินกว่าหนึ่งรอบการซื้อขาย
- ตลาดหลักทรัพย์ได้รับการชี้แจงข้อมูลจากบริษัทจดทะเบียนที่ขึ้นเครื่องหมายNP แล้ว และจะขึ้นเครื่องหมาย NR เป็นเวลา 1 วัน
- บริษัทจดทะเบียนต้องรายงานและตลาดหลักทรัพย์ฯ อยู่ระหว่างรอข้อมูลจากบริษัท
การลงทุนเป็นความเสี่ยงจริงๆต้องศึกษาข้อมูลก่อนลงทุนนะคะ พวกประดาหุ้นที่ติดเครื่องหมายสารพัดต้องระมัดระวังค่ะ เพราะ น่าจะมีปัญหาเสียแล้ว
หุ้นสามัญทั่วไป ผู้ลงทุนต้องระมัดระวังนะคะ เพราะธุรกิจการค้าที่ต้องการให้บริษัทของตนเติบโตแต่ตังค์ไม่มีพอ เลยต้องระดมเงินจากผู้คนอื่นที่มีสตังค์พอลงทุนเป็นหลายๆล้านบาทอบ้างที่ไม่ใช่ญาติ หรือบริษัทในเครือญาติ หรือ คนขับรถ ที่บ้านหรือคนรับใช้ในบ้าน อย่างหุ้นสามัญประจำปีบางประเภท แต่ต้องร่วมกันอยากจะร่วมเสี่ยงด้วยกันจริงๆ ว่าการค้านี้จะรอดไม่รอด เจ้าของบริบัทขาหุ้นใหญ่ เขาก็จะเข้าตลาดมาจดเป็นหุ้นสามัญ หรือตราสารประเภทหุ้นทุน อีกต้องระวังเรื่องผลตอบแทนและความเสี่ยง ตลอดจนการเสียภาษี ออกโดยบริษัทจำกัดมหาชน ที่ต้องการระดมเงินทุน โดยผู้ลงทุนที่ควักกระเป๋าถือหุ้นก็มีส่วนร่วมเป็นเจ้าของกิจการ มีสิทธิตามกฏหมายเข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้นและลงคะแนนเสียงเพื่อร่วมตัดสินใจ ในปัญหาสำคัญของบริษัทได้
บางคนว่าคนรวยเล่นหวยคนจนเล่นหุ้น แต่บางประเทศในภูมิภาคของเรานั้น มีกองทุนของภาครัฐบางประเภทที่เหมาเป็นผู้ร่วมทุนไปสารพัดและปันผลส่วนแบ่งให้ภาคส่วนรัฐราชการได้กินใช้ร่วมกัน ภาคราชการเขาจะมีรายได้ผลตอบแทนสูงค่ะ ไม่ใช่ว่ากองทุนข้าราชการบางประเทศจะปล่อยข้าราชการที่ออมเงินวัดดวงกับสารพัตตราสารหุ้นตราสารทุนโดยใช้วิจารณญาณของตนเองเท่านั้น โดยที่กองทุนรวม กองทุนสำรองเลี้ยงชีพของวิชาชีพนั้นๆ ไม่สามารถบริหารจัดการเอาส่วนแบ่งผลกำไรมาให้ข้าราชการมีกินมีใช้มีความสุขได้แต่โดนประนามว่าคอรัปชั่นสารพัดล่ะค่ะ เจอพิษการเมืองเศรษฐกิจเลยไปกันใหญ่เลย
เรื่องหุ้นขอยกเอาไปอีกสักรอบหน้านะคะเพราะมันยาว และไม่ค่อยพอใจผลประกอบการของกอบอขอเท่าไหร่ สวัสดิการไม่เท่าไหร่ แต่การตอบแทนผลกำไรตรงๆให้ผู้ออมน่าจะทำได้อย่างประเทศปลายแหลมเขาบ้าง การลงทุนในภาครัฐ เอามาลงทุนในสาธารณูปโภคภาครัฐ ไม่พอ ยังไปหาลงทุนในตลาดทุนทั่วโลกอีก
ขอคำถามอีกสักข้อ คือเมื่อไหร่เราจะผลิตรถยนต์แบรนด์ของเราเสียทีนอกจาตุ๊กๆน่ะค่ะ มันมีเหตุผลในการแย่งชิงส่วนแบ่งทางการตลาด หรือเหตุผลว่าเราด้อยเทคโนโลยีกว่าชาวอินเดียมากหรือคะ เพราะเรามีโรงงานส่งรถเมดอินไทยแลนด์ไปหลายประเทศ แต่ไม่มีแบรนด์ของตัวเองเสียที แล้วรถของอินเดียยี่ห้ออะไรคะ คันนี้ อยากทราบจัง
The Nano Diaries: 10,000 km road trip in
Coast to coast, through mountains, deserts, jungles and most major Indian cities, a British journalist takes India's people's car to the people
Read more: The Nano Diaries | CNNGo.com http://www.cnngo.com/mumbai/play/nano-diaries-10000-km-road-trip-india-591452?hpt=C2#ixzz0optPAa2J
00km from the outskirts of Mumbai, the effects of too much Red Bull on an empty stomach after 11 solid hours of driving began to kick in. At a neon-green garage, abandoned all but for a couple of attendants sitting expectantly by the pump on plastic chairs, I fell victim to the knock-on effects of excess caffeine and sugar. Tunnel vision, accelerated heart rate, difficulty breathing; I parked Abhilasha in the far corner of the plaza by the toilet block and sat with the A/C on full blast in my face as I struggled to breathe easy and calm the electric buzz in my arms and legs. Absolutely terrifying.
Like a marathon runner just minutes from the finish line, or a mountaineer within a few metres of the summit, I was so close. But this final push was proving to be the end of me. 10pm and only another 3 or so hours to go, but I felt beaten. Around me was pitch black, a void of unknown nothing punctuated by the searing lights of driving insanity. Disoriented, panicked, knackered, I was ready to throw in the towel.
I had been driving all day, since Udaipur; a 750km journey that I was planning on doing over two days, but decided to take advice from the black devil somewhere around Vadadora and go for the whole thing in one shot. What the hell, I thought? It’s the last leg. Let’s make it glorious, triumphant! Let’s march in Mumbai for the final hurrah, our heads held high after a real challenge. After all, what’s the worst can happen?
Excerpted from 'Fear and loathing for the final push', The Nano Diaries
Read more: The Nano Diaries | CNNGo.com http://www.cnngo.com/mumbai/play/nano-diaries-10000-km-road-trip-india-591452?hpt=C2#ixzz0opwHBMIL
http://www.cnngo.com/mumbai/play/nano-diaries-10000-km-road-trip-india-591452?hpt=C2
www.cdd.go.th
No comments:
Post a Comment